เชื้อเอชพีวี (HPV) หรือ Human papillomavirus เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด โดย HPV แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ชนิดก่อมะเร็ง: มี 14 สายพันธุ์ ทําให้เป็นโรคร้ายมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึงประมาณร้อยละ 70 รองลงมาคือ สายพันธุ์ 45, 31 และ 33 ชนิดไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง: ไม่ได้ทําให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่เป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ เช่น HPV 6 และ 11 HPV ติดต่อได้แม้ใส่ถุงยางอนามัย วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีน มีทั้งวัคซีนHPVที่ครอบคลุมในการป้องกัน 2 สายพันธุ์(16,18) 4สายพันธ์ุ (6,11,16 และ18 ) และแบบ 9สายพันธุ์ที่ครอบคลุมในการป้องกันถึง90%
Author Archives: secretmedicalcenter
โรคซิฟิลิส (Syphilis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema Polidum ติดเชื้อได้หลายบริเวณอวัยวะเพศชาย ช่องคลอด ทวารหนัก และปาก หากไม่รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ ส่งผลต่อระบบประสาท หัวใจ สมอง ระบบต่างๆ ของร่างกาย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต อาการต่างๆที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อ มีแผลริมแข็งบริเวณริมฝีปาก ผื่นขึ้นที่ฝ่ามือ ลำตัว เป็นแผลที่อวัยวะเพศ
หากสงสัยว่า ได้รับเชื้อ HIV ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อกินยาต้านเชื้อ HIV แบบฉุกเฉินหรือยา PEP (เพ็บ) ภายใน 72 ชั่วโมง หรือหากมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อสามารถกินยา PrEP (เพร็บ) ซึ่งเป็นยาที่กินก่อนที่จะได้รับเชื้อหรือป้องกันเชื้อ HIV ได้
HIV เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งโรคเอดส์ (AIDS) คือระยะท้ายของการติดเชื้อ HIV ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและมีโรคแทรกซ้อนได้ เชื้อ HIV จะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า CD4 (ซีดีโฟร์) ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายลดต่ำลง ทำให้มีโอกาสเกิดการติดเชื้อโรคฉวยโอกาส การติดเชื้อ HIV สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสเลือด และ สารคัดหลั่งทั้งนี้มีช่องทางการติดต่อที่สำคัญ ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย ทั้งทางช่องคลอดและทวารหนัก ก็ล้วนมีโอกาสติดโรคนี้ได้ ใช้เข็มหรือกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ HIV ซึ่งมักพบในกลุ่มผู้ฉีดสารเสพติดเข้าเส้นเลือด การสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ HIV ผ่านผิวสัมผัสที่เป็นแผลเปิดหรือรอยถลอก